1.แช่น้ำร้อนก่อนซักจริง
เพียงแค่เราซักผ้าตามขั้นตอนธรรมดาอาจไม่สามารถกำจัดกลิ่นฝังแน่นเหล่านี้ได้หมดไปภายในครั้งเดียวอีกทั้งยังมีเชื้อโรคต่างๆ เกาะสะสมอยู่มากมายซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นตัวการร้ายที่ทำให้เสื้อผ้าเราไม่หอม หรือเหม็นเร็วดังนั้นหากเราต้องการทำให้เสื้อผ้าเรามีกลิ่นหอม ติดทนนานตลอดทั้งวันจึงควรกำจัดกลิ่นฝังแน่นจากเหงื่อ มลภาวะต่างๆ ด้วยการแช่น้ำร้อนก่อนซักเพื่อกำจัดทั้งกลิ่นและเชื้อแบคทีเรีย
2.เลือกผลิตภัณฑ์ซักผ้าสูตรเข้มข้น
เลือกใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มที่เน้นเป็นสูตรเข้มข้นใช้เทคโนโลยีนาโนในการนำกลิ่นน้ำหอมติดเสื้อผ้าได้ทนนานกว่าเดิมหรือเทคโนโลยีที่ยิ่งมีการเสียดสีของเนื้อผ้ามากเท่าไหร่จะยิ่งส่งกลิ่นหอมออกมามากเท่านั้นจะเป็นอีกหนึ่งวิธีซักผ้าให้หอมที่ผู้หญิงถูกใจเป็นอย่างมากปัจจุบันจึงมีการพัฒนาสูตรน้ำยาปรับผ้านุ่มแบบเข้มข้นออกขายแทบทุกแบรนด์และมีหลายกลิ่น
3.ใช้สเปรย์ฉีดผ้าแบบกลิ่นหอม
วิธีซักผ้าให้หอมและช่วยทำให้กลิ่นติดหอมยาวนานมากขึ้นซึ่งในปัจจุบันมีสเปรย์สำหรับฉีดผ้าที่เป็นกลิ่นหอมพิเศษของประเทศเกาหลีเข้ามาขายในประเทศไทยซึ่งมาในรูปแบบของน้ำหอมอเนกประสงค์ จนกลายเป็นที่นิยมของผู้ที่ต้องการให้เสื้อผ้าหอมตลอดเวลาโดยสเปรย์น้ำหอมนี้สามารถใช้ได้ทั้งกับการฉีดบนเสื้อผ้า, การฉีดระงับกลิ่นภายในตู้เสื้อผ้า, การฉีดดับกลิ่นบนรถยนต์เป็นวิธีที่น่าสนใจทีเดียวเลย
4.พื้นที่ของการตากก็เป็นเรื่องสำคัญ
ไม่ควรตากกลางแจ้งหรือโดนแสงแดดแรงจัดเพราะอาจจะพาให้เนื้อผ้าเสียหายและติดกลิ่นเหม็นแดดมาด้วย วิธีที่แนะนำคือการตากไว้ในที่ร่มแต่ต้องมีอากาศถ่ายเทได้ดีลมโกรกหรือลมพัดผ่านตลอดทั้งวัน พร้อมเว้นระยะการตากเสื้อให้พอดีข้อห้ามเด็ดขาดคือไม่ควรนำไปตากในที่จุดอับไม่อย่างนั้นแล้วผ้าเราจะได้กลิ่นอับแทนกลิ่นหอมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แทน
จะเห็นว่าอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคือ ‘บ้าน’นั่นเอง เพราะบ้านที่ดีต้องมีทั้งพื้นที่ถ่ายเท ความกว้างเหมาะสมและมีแสงแดดส่องอย่างทั่วถึงบ้านของเอพีที่ใส่ใจคุณไม่แพ้กันจึงออกแบบมาเพื่อรองรับในทุกๆกิจกรรมของชีวิตประจำวันรวมถึงเรื่องเล็กๆ อย่างการซักและตากผ้าด้วยเช่นเดียวกัน