โรคฝีดาษลิงคืออะไร ?
เกิดจากไวรัสOthopoxvirusซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับไวรัสโรคไข้ทรพิษโดยพบเชื้อในสัตว์ตระกูลลิง และสัตว์ฟันแทะ เช่น หนู กระรอก กระแต เป็นหลักโรคนี้ค้นพบครั้งแรกในลิง ซึ่งไปรับเชื้อมาโดยบังเอิญ จึงเป็นที่มาของชื่อโรคฝีดาษลิง
อาการของโรคฝีดาษลิง
หลังจากติดเชื้ออาการจะใช้ระยะเวลาฟักตัวประมาณ 7-14 วัน โดยในระยะแรกเริ่มต้นด้วยมีไข้ ปวดศีรษะ ปวดตามร่างกาย อ่อนเพลียต่อมน้ำเหลืองโต 1-5วัน หลังจากนั้นจะมีอาการแสดงทางผิวหนัง คือ เป็นตุ่มโดยเริ่มจากจุดแดง เป็นตุ่มน้ำ ตุ่มหนอง และแห้งแตกออก โดยมักพบบริเวณหน้าแขนขามากกว่าลำตัวใช้เวลา 2-4 สัปดาห์ ตุ่มที่ผิวหนังถึงจะแห้งหมด
ความแตกต่างระหว่างฝีดาษลิง กับ ไข้ทรพิษ
ฝีดาษลิงจัดเป็นกลุ่มโรคไข้ออกผื่น กินระยะเวลานาน 2-4 สัปดาห์ เช่นเดียวกับโรคฝีดาษ หรือไข้ทรพิษ (Smallpox)แม้ว่าจะเป็นไวรัส Othopoxvirus กลุ่มเดียวกันแต่จัดเป็นคนละชนิดกัน โดยลักษณะการติดต่อและความรุนแรงของโรคพบว่ามีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน
โดยเชื้อไวรัสของโรคไข้ทรพิษจะมีการติดต่อจากคนสู่คนเท่านั้นโดยติดต่อผ่านการหายใจ สามารถติดต่อกันง่ายมากผ่านละอองฝอยเล็ก ๆ ซึ่งสามารถแพร่กระจายได้อย่างเป็นวงกว้างโดยพบว่า ผู้ป่วยโรคไข้ทรพิษมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 30% แตกต่างจากไข้ฝีดาษลิงที่ติดต่อกันผ่านการสัมผัส
วิธีการรักษา
โดยทั่วไปผู้ป่วยสามารถหายจากโรคได้เองในระยะเวลาประมาณ 2-4สัปดาห์ หากกรณีเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง มีภูมิคุ้มกันต่ำหรือมีโรคประจำตัว จะมีการรักษาโดยใช้ยา Tecovirimat, Cidofovir,Brincidofovir ซึ่งเป็นยากลุ่มเดียวกันกับที่ใช้รักษาโรคไข้ทรพิษ
โรคฝีดาษลิงอาจดูไกลตัวแต่หากเราระมัดระวังและป้องกันตัวเองได้ โดยสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือให้บ่อยไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น หรือไม่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยฝีดาษลิงก็ปลอดภัยจากโรคนี้ได้