1. สำรวจว่าบ้านของเรานั้นติดโซล่าเซลล์แล้วคุ้มค่าหรือไม่
ลักษณะของบ้านที่ติดโซล่าเซลล์ไปแล้วคุ้มค่าช่วยประหยัดไฟได้จริง คือบ้านที่อยู่กันเป็นครอบครัวขนาดใหญ่มีการใช้ไฟในช่วงกลางวันมาก เป็นบ้านที่มีคนอยู่และจำเป็นต้องใช้ไฟตลอดเวลาหรือบ้านที่ทำเป็นโฮมออฟฟิศแล้วมีพนักงานประจำมาใช้ไฟ ใช้แอร์ โดยค่าไฟเฉลี่ยจะอยู่ที่3,000 บาทไปจนถึงหลักหมื่น
...
2. มีพื้นที่ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์
สังเกตดูว่าทิศทางของบ้านเรานั้นตั้งอยู่ในจุดที่โดนแสงแดดโดยตรงและไม่มีต้นไม้ใหญ่หรือตึกสูงๆ มาบดบังแสงอาทิตย์ใช่หรือไม่พร้อมกับสำรวจว่าโครงสร้างบริเวณหลังคานั้นแข็งแรงและทนทานมากพอที่จะรองรับการติดแผงโซล่าเซลล์โดยทิศที่เหมาะสมสำหรับติดตั้งแผงโซล่าเซลล์คือทิศใต้ที่สามารถรับแดดได้ตลอดทั้งวัน
...
3. คำนวณงบประมาณการติดแผงโซล่าเซลล์
ในบ้านขนาดใหญ่ที่อยู่กันเกิน 4 คน ต้องจ่ายบิลค่าไฟประมาณ 3,000 – 7,000 บาทต่อเดือนจะแนะนำให้ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ 5 กิโลวัตต์ โดยราคาอุปกรณ์รวมค่าติดตั้งจะอยู่ที่ประมาณ 2-3 แสนบาทขึ้นอยู่กับสเปคและค่าบริการของแต่ละเจ้าด้วย
...
4. เข้าใจระยะเวลาการรับประกันและการคืนทุนของแผงโซล่าเซลล์
มาตรฐานการรับประคุณภาพของแผงโซล่าเซลล์จะอยู่ที่25 ปี หากคำนวณเสียค่าติดตั้งโซล่าเซลล์ไป 200,000 บาทซึ่งช่วยลดค่าไฟได้ประมาณเดือนละ 2,000 - 3,000 บาท จะทำให้เราคืนทุนในช่วงเวลา 8- 10 ปี ส่วนระยะเวลาหลังจากนั้นก็เป็นช่วงที่เราได้กำไรจากการติดตั้งในรูปแบบพลังงานไฟฟ้านั่นเอง
...
5. การขออนุญาตติดตั้งแผงโซล่าเซลล์
เพราะปกติแล้วการใช้ไฟฟ้าจะต้องขอใช้ไฟจากหน่วยงานของรัฐหากเราอยากจะเปลี่ยนมาติดโซล่าเซลล์เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เองจะต้องแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มาตรวจสอบในเบื้องต้นว่าอุปกรณ์ที่ติดตั้งมีความปลอดภัยและพื้นที่ของบ้านมีความเหมาะสมโดย 2 ระบบที่ต้องทำเรื่องขออนุญาตคือระบบออนกริดและไฮบริด
...
ข้อดีของการติดโซล่าเซลล์
1. ติดแล้วประหยัดไฟ
2. ลดมลพิษ
3. ใช้ไฟฟ้าได้ทุกที่
ที่มา:solarcellguru
https://solarcellguru.com/solar-cell-system/?source=fbpost&medium=facebook&campaign=content-team_00-17-03-00-00-00-000&content=broad