อาการไข้เลือดออก แบ่งออกเป็น 3 ระยะ
ระยะไข้ อาการของผู้ป่วยไข้เลือดออกระยะนี้จะมีไข้สูงตลอดเวลามักจะไม่ค่อยตอบสนองต่อยาลดไข้ ซึ่งอาจมีอาการเบื่ออาหาร ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียนและอาจมีผื่นหรือจุดเลือดออกตามตัว ร่วมด้วย โดยระยะไข้นั้นจะใช้เวลาประมาณ 2 – 7วัน
ระยะวิกฤติ ในระยะนี้ไข้จะลดต่ำลง ผู้ที่ไม่มีอาการแทรกซ้อนอาการไข้เลือดออกที่เป็นอยู่จะค่อย ๆ ดีขึ้นส่วนกรณีผู้ป่วยที่มีอาการแทรกซ้อนเลือดออกตามร่างกาย อาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียนจะยังไม่ดีขึ้น ซึ่งหากอาการรุนแรง อาจส่งผลให้เกิดภาวะช็อก ความดันต่ำมือเท้าเย็นลง ชีพจรเต้นเบา (Weak Pulse) และเร็ว ปัสสาวะออกน้อย เลือดออกง่ายเช่น มีเลือดกำเดาไหล อาเจียนเป็นเลือด อุจจาระมีสีดำและอาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยอาการระยะนี้จะใช้เวลาประมาณ 24 – 48 ชั่วโมงดังนั้นหากพบผู้มีอาการไข้เลือดออกเกิน 2 วันควรรีบนำตัวส่งแพทย์ทันที !
ระยะฟื้นตัว ระยะนี้อาการของผู้ป่วยไข้เลือดออกจะค่อย ๆ ดีขึ้นมีความรู้สึกอยากอาหารเพิ่มขึ้น ความดันโลหิตจะค่อย ๆปรับตัวสูงขึ้นจนเข้าสู่สภาวะปกติ ชีพจรเต้นแรง (Bounding Pulse) และช้าลงบางรายอาจยังมีผื่นแดง และจุดเลือดออกเล็ก ๆ ตามตัว
อาการไข้เลือดออก ป้องกันตัวเองอย่างไร อาการไข้เลือดออกอาจเกิดขึ้นได้จากการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการถูกพาหะนำโรคอย่างยุงลายกัดเพื่อป้องกันตัวเองให้ห่างไกลต่อความเสี่ยงในการได้รับเชื้อไวรัสสามารถป้องกันตนเองได้ ดังนี้
1. ป้องกันตนเองไม่ให้ถูกยุงกัด
สวมเสื้อผ้าที่ปกคลุมร่างกายมิดชิด อย่างเสื้อแขนยาว และกางเกงขายาวกางมุ้งนอนเพื่อป้องกันยุงกัดขณะหลับ ไม่นั่งอยู่ในมุมมืดเนื่องจากจะเป็นที่ยุงชุม และอาจถูกกัดได้โดยไม่รู้ตัว ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ป้องกันยุงเช่น ยาที่ใช้สำหรับจุดไล่ยุง ครีมทาผิวเพื่อไล่ยุง หรือสติกเกอร์สมุนไพรไล่ยุง
2. กำจัดแหล่งเพาะพันธ์ยุงลาย
ปิดภาชนะเก็บน้ำ อย่าง อ่างน้ำ ถังรองน้ำ ฯลฯ ด้วยฝา หรือ ผ้าไนลอนให้มิดชิดเพื่อป้องกันยุงมาวางไข่ เปลี่ยนน้ำในแจกันดอกไม้และเทน้ำขังออกจากถาดรองกระถางต้นไม้เป็นประจำ ปิด คว่ำ หรือทำลายวัสดุรอบ ๆตัวบ้าน ที่น้ำอาจเข้าไปขังได้ เช่น ขวด กระป๋องเปล่า ยางรถยนต์ที่ไม่ใช้งานแล้ว
3. ฉีดวัคซีนไข้เลือดออก
เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสซึ่งปัจจุบันวัคซีนสามารถช่วยลดความรุนแรงของโรคได้ในเด็กอายุ 6 ปีขึ้นไปทั้งนี้วัคซีนจะป้องกันได้ดีในผู้ที่เคยติดเชื้อไวรัสเดงกีมาแล้วเท่านั้นจึงแนะนำให้ตรวจเลือด และปรึกษาแพทย์ก่อนทำการฉีดวัคซีน
โรคไข้เลือดออกสามารถป้องกันได้ ด้วยการทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายและหลีกเลี่ยงการถูกยุงกัดหากมีอาการเข้าข่ายที่กล่าวมาข้างต้นควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที